สารต้านอนุมูลอิสระสูง
มัทฉะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติในการปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่สามารถทำลายเซลล์และทำให้เกิดโรคเรื้อรังเมื่อเวลาผ่านไป มัทฉะนั้นมีสารแคทิชิน (catechins) ที่เป็นกลุ่มของสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะสารอีจีซีจี (EGCG) หรือ เอพิคาเทซิน กัลเลท (Epigallocatechin gallate) เป็นสารที่มีอยู่ในปริมาณมากในมัทฉะ มีงานวิจัยหลายฉบับที่พบว่ามัทฉะมีสารอีจีซีจีมากกว่าชาเขียวปกติถึง 137 เท่า
ประโยชน์ของการมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงในมัทฉะไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ และมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าสารอีจีซีจีในมัทฉะนั้นสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหลากหลายประเภท
อีกประการหนึ่งคือการที่สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะมีคุณสมบัติในการชะลอความชรา อนุมูลอิสระที่สะสมมากไปสามารถทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ เร่งกระบวนการเกิดริ้วรอย แต่การดื่มมัทฉาที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะช่วยลดการสะสมของอนุมูลอิสระนี้ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต้มต่อนี้ไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพของผิวเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายด้วย
เพิ่มพลังงานและความกระปรี้กระเปร่า
การเริ่มต้นวันด้วยมัทฉะให้ประโยชน์ทั้งทางกายและจิตใจ การดื่มมัทฉะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังงานและความกระปรี้กระเปร่าได้ดี เนื่องจากมัทฉะมีส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง L-Theanine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการผ่อนคลายและลดความเครียด โดดเด่นที่มัทฉะไม่ทำให้หัวใจเต้นแรงหรือเกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนกับการดื่มกาแฟ
L-Theanine ที่พบในมัทฉะยังมีผลในการเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เมื่อรวมกับคาเฟอีนที่มีอยู่ในตัวมัทฉะเอง แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าในกาแฟ ส่งผลให้เกิดการปล่อยพลังงานอย่างยาวนานที่มั่นคง ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจที่ดีขึ้น
มัทฉะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายประการ ทั้งนี้การดื่มมัทฉะแนะนำให้ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะในช่วงเช้า เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการดำเนินชีวิตประจำวันที่มีกิจกรรมหลากหลายและต้องใช้พลังงานอย่างมาก การดื่มมัทฉะแทนกาแฟให้พลังงานแบบยาวนานและม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ การดื่มมัทฉะในช่วงเช้าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดที่ส่งผลดีกับร่างกายและจิตใจ อาทิ ทำให้สมองตื่นตัวและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ตลอดวัน
ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร
มัทฉะเป็นแหล่งของสารคลอโรฟิลล์ที่มีความเข้มข้นสูง สารคลอโรฟิลล์นี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายปลอดสารพิษแล้ว การดูดซึมสารอาหารต่างๆก็จะได้รับการพัฒนาไปด้วย โดยเฉพาะสารอาหารที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันและพลังงานในร่างกาย
การบริโภคมัทฉะเป็นประจำในช่วงเช้า จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคลอโรฟิลล์มีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมการดูดซึมของสารอาหารจากอาหารที่บริโภคเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายพร้อมรับประโยชน์สูงสุดจากอาหารที่เรารับประทาน
นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ที่พบในมัทฉะยังมีคุณสมบัติเด่นที่ช่วยในการลดกลิ่นปาก คำว่ากลิ่นปากไม่พึงประสงค์มักเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก การดื่มมัทฉะจะช่วยรักษากลิ่นปากให้น้อยลงและทำให้เรามั่นใจในการสื่อสารและการพบปะผู้อื่น
ยิ่งไปกว่านั้น มัทฉะยังมีสรรพคุณในการปรับสมดุลของระบบร่างกาย ร่างกายที่สมดุลจะสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีพลังและต้านทานต่อโรคภัยต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยควบคุมน้ำหนัก
มัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในวงการสุขภาพ และมีประโยชน์หลายประการในการควบคุมน้ำหนัก ด้วยสารสำคัญที่มีอยู่ในมัทฉะ เช่น คาเทคิน (catechins) ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน ในการศึกษาเกี่ยวกับนี้พบว่าการดื่มมัทฉะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย การดื่มมัทฉะในช่วงเช้าก่อนการออกกำลังกาย ยังเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยพลังงานที่เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการลดน้ำหนักในระยะยาว
นอกจากนี้ มัทฉะยังช่วยในการควบคุมน้ำหนักโดยลดระดับน้ำตาลในเลือด ปริมาณไฟเบอร์สูงในมัทฉะช่วยในการดูดซึมน้ำตาลช้าลง จึงช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาอินซูลินแบบทันทีทันใด นอกจากนี้ การดื่มมัทฉะยังก่อให้เกิดความรู้สึกอิ่มนานขึ้น ช่วยลดความอยากอาหารในระหว่างวัน ทำให้สามารถบริหารจัดการอาหารระหว่างมื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เพียงเท่านั้น มัทฉะยังมีแอลทีนิน (L-theanine) สาระสำคัญที่ช่วยให้สมองรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ซึ่งช่วยลดความเครียดและความอยากทานของว่างที่มักเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในภาวะเครียด สารนี้ยังช่วยปรับสมดุลระดับพลังงาน และสามารถเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติหลายประการที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนักและส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี ผู้ที่สนใจในการดูแลน้ำหนักตัวจึงควรพิจารณามัทฉะเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันเพื่อประโยชน์ที่มากมายและยาวนาน